การติดตั้งฉนวนกันความร้อนหลังคาคือแนวทางในการช่วยป้องกันความร้อนของตัวบ้านและอาคารที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยหน่วงความร้อนไม่ให้แผ่รังสีเข้ามายังภายในตัวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตำแหน่งที่ควรทำการติดตั้งฉนวนกันความร้อนหลังคามากที่สุดคือบริเวณโถงใต้หลังคา เพราะเป็นบริเวณที่ต้องรับความร้อนจากแสงแดดโดยตรงมากที่สุด ตามท้องตลาดของแผ่นฉนวนกันความร้อนบนฝ้าเพดานสำหรับบ้านและอาคารนั้นถือว่ามีตัวเลือกในเรื่องของวัสดุอยู่มากมาย ที่บานดี้แพลตฟอร์มจำหน่ายวัสดุก่อสร้างออนไลน์มีผลิตภัณฑ์ฉนวนกันความร้อนหลังคาจากแบรนด์ชั้นนำให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ
สำหรับใครที่กำลังเริ่มทำบ้านหรือกำลังวางแผนต่อเติมหลังคาหน้าบ้านควรทำความเข้าใจก่อนว่าฉนวนกันความร้อนนั้นมีแบบไหนบ้าง เพราะผู้ผลิตชั้นนำส่วนใหญ่ได้คิดค้นและพัฒนาฉนวนกันความร้อนหลังคาออกมามากมาย เพื่อช่วยตอบโจทย์เรื่องการป้องกันความร้อนภายในตัวบ้านและอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักๆ จะมีการแบ่งประเภทจากวัสดุที่เลือกใช้ในการผลิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นฉนวนกันความร้อนทั้งหมด 5 ประเภทหลักๆ ด้วยกันคือ วัสดุใยแก้ว, Air Bubble, วัสดุโฟม PE, วัสดุอะลูมิเนียมฟอยล์ และฉนวนกันความร้อนแบบพ่น ซึ่งทั้งหมดก็จะมีคุณสมบัติความเป็นฉนวนกันความร้อนฝ้าเพดานที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
ประเภทแรกคือฉนวนกันความร้อนหลังคาที่มีวัสดุภายในเป็นเส้นใยแก้ว หรือวัสดุที่เรียกว่า “ซิลิกา” โดยเป็นการนำวัสดุตัวนี้ไปทำการหลอมละลายแล้วนำไปปั่นให้เป็นเส้นใยและขึ้นรูปให้เป็นแผ่น จากนั้นก็จะมีการห่อหุ้มด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์อีกชั้นเพื่อให้มีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ฉนวนกันความร้อนประเภทนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนที่ดี แถมยังมีคุณสมบัติไม่ลามไฟเมื่อเกิดอัคคีภัย ที่สำคัญตัววัสดุใยแก้วไม่มีอันตรายต่อทางเดินหายใจมนุษย์เพราะมีอนุภาคที่ใหญ่เกินกว่าจะสูดหายใจเข้าไปได้
ถัดมาเป็นฉนวนกันความร้อนประเภท Air Bubble มีลักษณะคล้ายกับแผ่นพลาสติกกันกระแทกที่หลายๆ คนเคยเห็นจากการนำไปห่อสินค้าในกล่องพัสดุ ซึ่งในแผ่นฉนวนกันความร้อนประเภทนี้ก็จะใช้หลักการคล้ายๆ กันแต่ใช้แผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์มาประกบทั้ง 2 ด้านแทนพลาสติก ทำให้ได้คุณสมบัติในการสะท้อนรังสีความร้อนได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกเช่น การดูดซับความชื้นต่ำ ไม่ลามไฟเมื่อเกิดอัคคีภัย และคายความร้อนต่ำ ติดตั้งได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อเติมหลังคาหน้าบ้านหรือการก่อสร้างตั้งแต่แรก ขอแนะนำให้ติดบนแปหรือใต้จันทันพร้อมกับขึงลวดเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวแผ่นหย่อนเป็นท้องช้าง
ฉนวนกันความร้อนหลังคาประเภทที่ 3 มีวัสดุหลักเป็นโฟมชนิด PE หรือโพลีเอธิลีนโฟม มีลักษณะเป็นโฟมเนื้อเหนียวนุ่ม ถูกหุ้มด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์อีกชั้นหนึ่ง ทำให้เป็นแผ่นฉนวนกันความร้อนที่สามารถสะท้อนรังสีความร้อนได้ดีไม่แพ้ประเภทอื่นๆ แถมยังมีราคาถูกมากที่สุดทำให้ได้รับความนิยมมากกว่า มีคุณสมบัติที่นอกเหนือจากการป้องกันความร้อนอีกมากมาย เช่น ความทนทานต่อการกัดกร่อน มีความต้านทานต่อสารเคมีที่เป็นกรด เหมาะสำหรับผู้ที่ต่อเติมหลังคาหน้าบ้านด้วยแผ่นเมทัลชีทเพราะป้องกันไม่ให้ถูกกัดกร่อนได้ดีหากนำไปติดตั้งด้านใต้ของหลังคาเมทัลชีทจะช่วยลดเสียงกระทบของน้ำฝนได้เป็นอย่างดี
ฉนวนกันความร้อนประเภทที่ 4 คือฉนวนประเภทอะลูมิเนียมฟอยล์ โดยใยประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นการนำแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์บางๆ 2 แผ่นมาประกบกัน ทำให้มีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนได้ดีมีราคาถูก แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถหน่วงความร้อนได้ทำให้ภายในพื้นที่อาจจะยังรู้ได้ถึงไอร้อนที่เข้ามา ดังนั้นใครที่กำลังวางแผนต่อเติมหลังคาหน้าบ้านไม่ว่าจะด้วยแผ่นเมทัลชีทหรือกระเบื้อง ควรเลือกติดตั้งแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ควบคู่กับฉนวนกันความร้อนหลังคาชนิดอื่นๆด้วยจะทำให้มีประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนที่ดีกว่า
สุดท้ายกับฉนวนกันความร้อนหลังคาประเภทพ่น เป็นโซลูชันกันความร้อนที่ไม่ใช่แบบแผ่น แต่เป็นการพ่นด้วยโฟม PU หรือโฟมเหลืองเข้าไปบริเวณใต้หลังคา โดยในปัจจุบันมีให้เลือกได้ทั้งฉนวนที่เป็นสูตรผสม Ceramic Coating และแบบ Cellulose ที่เป็นเยื่อกระดาษ ข้อดีคือมีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่มีการติดตั้งที่ยุ่งยากมากที่สุด ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของช่างเป็นพิเศษใครที่กำลังวางต่อเติมหลังคาหน้าบ้านอาจจะต้องคิดให้ดีเพราะมีราคาที่สูงกว่าประเภทอื่นๆ อยู่พอสมควร